เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง คุงชิน (รับบทโดย จวน จีฮุน) ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจึงไล่ตามจับคนร้าย ทว่า เธอเพิ่งรู้ว่าจับได้ผิดคนเพราะไปจับพลเมืองดีที่ช่วยไล่ตามจับคนร้าย ผู้ชายคนนั้นคือ มุงวู (รับบทโดย จาง ฮยอก) ซึ่งเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมหญิงล้วนแห่งหนึ่ง ต่อมาทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้งโดยหนุ่มมุงวู เข้าร่วมโครงการตำรวจอาสาและช่วยปกป้องศักดิ์ศรีแก่ สาวคุงชิง จากผู้มีอิทธิพล เกิดเป็นความประทับใจจนทำให้ทั้งคู่ตกลงเป็นแฟนกัน จากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายหลายอย่างตามมา ซึ่งฝ่ายสาวคุงชินมักจะเป็นฝ่ายช่วยเหลือหนุ่มมุงวูเสียมากกว่า ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มมีความสนิทสนมกันมากขึ้นจนเกิดเป็นความรักในที่สุด Windstruck
ครั้งหนึ่ง นายมุงวู ได้บอกกับ นางสาว.คุงชินเอาไว้ว่า หากเขาตายไป เขาอยากเป็นสายลมที่อยู่เคียงข้างเธอ โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น นั่นคือ เหตุการณ์ตอนที่ สาวคุงชิน กำลังตามจับอาชญากรร้าย หนุ่มมุงวู ได้พยายามช่วยตามจับด้วย ทว่าในขณะที่เกิดการยิงต่อสู้กับคนร้าย เขาได้ถูกลูกหลงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหน่วยหนึ่งยิงพลาดไปจนเสียชีวิต สาวน้อยคุงชินเสียใจมากและคิดว่าตนเองเป็นคนยิงมุงวูเสียชีวิต เธอไม่มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป คิดจะฆ่าตัวตายตามไปถึง 2 ครั้ง จน วิญญาณมุงวู ต้องกลับมาช่วยในร่างของสายลมแห่งปาฏิหาริย์ สาวคุงชินยังวางแผนจะฆ่าตัวตายตามไปในวันที่ 49 ซึ่งมาจากความเชื่อว่าวิญญาณคนตายจะกลับสู่โลกมนุษย์เพื่อร่ำลาคนรักในวันนี้ แต่ก่อนถึงวันนั้น สาวน้อยได้ถูกคนร้ายยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส คุงชิน เธอสลบไปและไม่มีกำลังใจที่จะฟื้นขึ้นมาอีก มุงวู ได้เข้าฝันและตะคอกใส่เธอว่า มุงวู คนเดิมตายไปแล้ว เธอ จึงมีกำลังใจฟื้นขึ้นมา แต่แล้ว เมื่อถึงวันที่ 49 วิญญาณของมุงวูก็ปรากฏขึ้น เขาแนะนำว่า ให้เธออยู่ต่อไปเพราะยังไม่หมดเวลาของเธอ ส่วนตัวเขาเอง ขอให้เขาได้จากไปอย่างมีความสุข เพราะจากไปพร้อมด้วยใจที่มีความรักต่อเธอ และเธอจะได้พบกับคนที่มีวิญญาณเหมือนกับเขาอีกครั้ง แล้วเมื่อถึงวันนั้นเขาจะเป็นสายลมกระซิบบอกให้เธอรู้ ทำให้ เธอ มีความหวังและมีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ในที่สุดคนที่มีวิญญาณเหมือน หนุ่มมุงวู ก็ได้ปรากฏตัวพร้อมกับสายลมแห่งปาฏิหาริย์กระซิบบอกแก่ทั้งคู่ ให้มีความรักต่อกัน ซึ่งชายคนนั้นก็คือ ชา แทฮยอน ที่เคยรับบทเป็นตัวเอกในภาคแรก มาสร้างเซอร์ไพร์สในฉากสุดท้ายด้วยนั่นเอง