เอมิลี ปูแลง เติบโตอย่างโดดเดี่ยวจากเด็กคนอื่นๆ ราฟาเอล พ่อผู้เงียบขรึม และ ชอบปลีกตัวทางสังคม ซึ่งเคยทำงานเป็นหมอทหาร วินิจฉัยอย่างผิดพลาดเกี่ยวกับ อาการไฮเปอร์เทนชัน (hypertension) หรือโรคหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เธอมีอาการตื่นเต้นเมื่อพ่อของเธอแตะตัวเธอ เพราะพ่อของเธอจะแตะตัวเธอเฉพาะเวลาตรวจโรคเท่านั้น แม่ของเธอ ชื่อ อแมนดีน เป็นครูสอนในชั้นประถมที่มีอาการผิดปกติทางประสาทตื่นตัว ได้ทำการสอนหนังสือให้กับเธอ อแมนดีนเสียชีวิตเมื่อเอมิลี่ยังเล็ก เนื่องจากอุบัติเหตุประหลาดที่เกิดจากการฆ่าตัวตายของผู้หญิงคนหนึ่งที่กระโดดลงมาจาก วิหารนอร์ทเธอร์ดาม และ หล่นทับแม่ของเธอเสียชีวิต ราฟาเอล พ่อของเธอ ได้ถอยตัวเองออกจากสังคมและอุทิศชีวิตของเขาให้กับการสร้างสถานที่บูชาและเก็บเถ้ากระดูกภรรยาของเขาที่สวนหลังบ้านเพื่อระลึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับอแมนดีน เอมิลี่จึงได้เพลิดเพลินกับตัวเธอเองด้วยการปรุงแต่งจินตนาการที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่ไม่มีชีวิตให้เคลื่อนไหว
สาวน้อยเอมิลี ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในคาเฟ่เล็กๆชื่อ มอนท์มาร์ท คาเฟ่ ซึ่งประกอบกิจการโดยนักแสดงละครสัตว์ พนักงานในร้านล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มคนอันสุดแสนประหลาด ด้วยอายุ 23 ปี ชีวิตของเอมิลี่ก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ผสมผสานไปด้วยความรักที่ไม่เป็นไปตามคาด และเธอยังไม่พบความสุข เธอจึงหันมาสนใจการหาความพอใจง่ายๆให้กับชีวิตเช่นการจุ่มมือของเธอลงไปในกระสอบธัญพืช กะเทาะหน้าครีมคาราเมลด้วยช้อนกาแฟ และ การโยนหินให้กระเด้งบนน้ำในคลองมาร์ติน ในขณะที่พยายามคาดเดาว่ามีคนรักกี่คู่ในฝรั่งเศสที่กำลังมีความสุขด้วยกัน
และแล้ว ชีวิตของเธอก็เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงไปในวันที่เจ้าหญิงไดอาน่าสิ้นพระชนม์ เธอมีอาการสะเทือนทางใจอย่างมากเกี่ยกับข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ในโทรทัศน์ เอมิลี่ทำลูกแก้วจากขวดน้ำหอมหล่น ลูกแก้วกลิ้งไปกะเทาะฝากระเบื้องห้องน้ำ และเธอก็ได้พบกับกล่องโลหะเก่าซึ่งบรรจุไปด้วยของสะสมในวัยเด็กของชายคนหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ของเธอหลายสิบปีที่ผ่านมา เธอตรึงใจกับการค้นพบครั้งนี้มาก จนทำให้เธอต้องการตามหาเด็กชายคนที่เคยซ่อนกล่องของเล่นเอาไว้ ซึ่งเติบโตขึ้นเป็นชายวัยกลางคน เพื่อคืนกล่องแห่งความทรงจำนั้นให้กับเขา เธอตั้งใจมั่นเอาไว้ว่า ถ้าเธอนำไปคืนเขาแล้วทำให้เขามีความสุข เธอจะอุทิศตัวเธอเองเพื่อการนำความสุขให้กับผู้อื่น
เอมิลี่พบกับเพื่อนบ้านผู้รักสันโดษ ที่ชื่อว่า รอยมอนด์ ดูฟาเยล ศิลปินนักวาดภาพผู้พยายามวาดภาพเหมือนสีน้ำมันของPierre-Auguste Renoir เขาได้รับฉายานามว่า ชายกระจก เพราะ กระดูกของเขาเปราะบางมาก ด้วยความช่วยเหลือจากเขา เธอจึงสามารถพบชายที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นเจ้าของกล่องโลหะนั้น เธอใช้วิธี ทิ้งกล่องโลหะนั้นไว้ในตู้โทรศัพท์ ซ่อนตัว และ โทรเข้าไปที่โทรศัพท์นั้นเมื่อชายคนนั้นเดินผ่าน เพื่อเรียกความสนใจของเขาให้เดินเข้าไปพบกับกล่องโลหะที่เธอวางทิ้งไว้ เมื่อชายผู้นั้นพบกับกล่องโลหะเก่าที่เก็บของเล่น เขาน้ำตาไหลด้วยความตื้นตันใจเมื่อนึกถึงความทรงจำในวัยเด็กของเขาที่ไหลทะลักเข้ามา เอมิลี่สะกดรอยตามเขาไปยังบาร์ใกล้ๆ และ เฝ้าสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ เธอพบผลกระทบทางบวกที่เกิดกับเขา แล้ว เธอจึงตัดสินใจว่าจะทำสิ่งดีๆให้กับชีวิตของคนอื่น
เอมีลี่กลายเป็นผู้จับคู่ให้กับคู่รัก จัดการกับความสับซ้อนของชีวิตคนอื่นให้หมดไป และตามมาซึ่งการทำความดีเพื่อผู้อื่นอีกมากมาย เธอนำทางชายตาบอดคนหนึ่งไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน บรรยายลักษณะถนนหนทางและ สิ่งแวดล้อมให้กับชายตาบอดฟังอย่างละเอียด เธอสนับสนุนให้พ่อของเธอตามฝันในการเดินทางรอบโลกของเขาด้วยการขโมยตุ๊กตานอมในสวนหลังบ้านไปให้แอร์โฮสเตสที่เป็นเพื่อนของเธอ นำไปถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก และ ส่งรูปกลับไปให้พ่อของเธอดูที่บ้าน เธอทำให้เพื่อนที่ทำงานในคาเฟ่ได้พบรัก เธอได้ทำจดหมายปลอมที่เขียนตอบกลับฉบับสุดท้ายของคนรักของหญิงข้างบ้านเพื่อบอกรักกับเธอก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เธอสนับสนุนชายผู้ไม่มั่นใจในตนเองจนเขามีจิตใจที่มั่นคงและปกติขึ้น
ในขณะที่เธอทำการดูแลชีวิตของคนอื่น ชายจิตรกร ดูฟาเยล ได้เฝ้าสังเกตเธอ และ เริ่มการสนทนากับเธอเกี่ยวกับภาพวาดของเขา เขาได้พยายามวาดภาพเดิมในจุดเดิมซ้ำๆเพราะเขาไม่สามารถจินตนาการสีหน้าและอารมณ์ของเด็กผู้หญิงที่ถือแก้วน้ำในรูปวาดได้ เขาสนทนาแลกเปลี่ยนกับเอมิลี่เกี่ยวกับการแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์ของเด็กผู้หญิงในภาพวาด ว่าไม่สามารถอธิบายออกมาได้ว่ามีอารมณ์ความรู้สึกแบบไหนที่ชัดเจน ซึ่งสะท้อนตัวตนของเอมิลี่และความว้าเหว่ในชีวิตของเธอ
หลังจาก การสนทนาครั้งนั้นทำให้เธอหันมาสำรวจชีวิตของเธอเอง และ คนแปลกหน้าที่เธอสนใจผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นชายหนุ่มผู้สะสมรูปถ่ายจากตู้ถ่ายรูปติดพาสปอร์ตผู้ซึ่งเธอไม่เคยได้พูดคุยด้วยมาก่อน เมื่อเธอชนเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจเป็นครั้งที่สอง เขาได้ทำอัลบั้มรูปถ่ายติดพาสปอร์ตที่เขาสะสมหล่นลงบนถนน เธอจึงได้รู้ว่าเขาชื่อ นีโน่ ควินแคมพอกซ์ เธอจึงเก็บมันไว้และหาวิธีที่จะนำไปคืนเขา เธอใช้วิธีการcat and mouse หรือ การใช้คำใบ้ให้เขาตามเส้นทางเพื่อตามหาอัลบั้มที่หายไปไปทั่วปารีส จนในที่สุดเขาก็ได้อัลบั้มรูปคืนไป โดยไม่ได้พบกับเธอ เธอเขินอายเกินไปที่จะเผชิญหน้ากับเขา เพื่อนของเธอในร้านคาเฟ่ ช่วยให้เขาได้พบเธอ และ เพื่อนบ้านจิตรกรของเธอก็สนับสนุนเธอให้กล้าที่จะไปพบกับชายหนุ่มที่เธอเฝ้าใฝ่ฝัน และ ในที่สุด นีโน่ และ เอมิลี่ก็ได้พบรักกัน