เพียงเอ่ยชื่อ นักสืบแจ๊ค คลูโซ (Inspector Jacques Clouseau) ผู้ร้ายทั้งแผ่นดินก็สั่นกลัวจนหัวหด แล้วใครที่เคยพบเจอเขาแล้วก็พลอยขนพองสยองเกล้าสุดสะพรึงตามไปด้วย ที่เป็นเช่นนั้นก็น่าจะมาจากผลงานการสืบสวนสอบสวนของ คลูโซ ที่แสนจะไม่เอาไหน แถมยังเป็นคนเข้าใจอะไรยากชนิดปวดขมับสุดมึน ทักษะการใช้ภาษาก็อ่อนด้อยเข้าขั้นปวกเปียก มิหนำซ้ำขนาดอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายของเขาเองแท้ ๆ ยังทำงานไม่ประสานกันเลย ถึงแม้วิธีการของเขาอาจจะพลิกแพลงหลุดจากกรอบ แถมบ่อยครั้งยังสับสนชุลมุน แต่เขาก็สามารถแก้คดีอาชญากรรมได้ – ตามสไตล์ที่เป็นตัวของเขาเองสุด ๆ อย่างน้อย ๆ ก็รอดตัวมาได้จนถึงทุกวันนี้ ในภาพยนตร์ตลกพกแอ็คชั่นมาเต็มล้นเรื่อง The Pink Panther นักสืบคลูโซขี้โอ่ (รับบทโดย สตีฟ มาร์ติน – Steve Martin) จะต้องสืบคดีที่สำคัญที่สุดในชีวิตการทำงานของเขา ขณะที่ อีเวส กลูออน (Yves Gluant) โค้ชฟุตบอลชื่อดังระดับโลกที่ เพิ่งนำทีมชาติฝรั่งเศสไปคว้าชัยชนะเหนือทีมชาติจีนมาหมาด ๆ กำลังถูกห้อมล้อมแสดงความยินดีจากบรรดาแฟน ๆ อยู่นั้น ข้างกายของเขามีแฟนสาวแสนสวย ซันย่า (Xania รับบทโดย บิย่อนเซ่ โนลส์ – Beyoncé Knowles) ศิลปินป๊อปชื่อดังระดับโลกประกบอยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นเขาก็ร่วงผล็อยล้มลงด้วยฤทธิ์ของลูกดอกอาบยาพิษ ช่วงที่ผู้คนแตกตื่นชุลมุนกันอยู่แหละ “เดอะ พิ้งค์ แพนเธอร์” (“The Pink Panther”) แหวนเพชรมูลค่ามหาศาลของ กลูออน ก็หายไปอย่างลึกลับ คดีฆาตกรรมตกเป็นเป้านำเสนอข่าวของสื่อมวลชนทุกแขนง และผู้คนทั้งชาติจับตามองจ้องเขม็ง ผู้บัญชาการกองสืบสวนสอบสวนดรายฟัส (Chief Inspector Dreyfus รับบทโดย เควิน ไคลน์ – Kevin Kline) ต้องรับภาระหนักไขคดีสำคัญนี้ให้สำเร็จ ในขณะดรายฟัสที่กำลังจะได้รับ รางวัลเกียรติยศ Medal of Honor เป็นครั้งที่เจ็ด และเขาก็รู้ตัวดีว่า ช่วงเวลาพิจารณาใกล้เข้ามาทุกขณะอย่างนี้จะทำผิดพลาดตรงไหนไม่ได้เลยแม้สัก นิดเดียว หรือถ้าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นที่ไหนก็อย่าให้เชื่อมโยงมาถึงตัวของเขา ได้เป็นดีที่สุด ดรายฟัสจึงโยนเผือกร้อนคดีสำคัญไปให้กับ นักสืบคลูโซ ผู้ที่ไม่เคยเหนื่อยหน่ายจากการทำคดีรับใช้ประชาชนเลยแม้แต่น้อย คลูโซ กับผู้ช่วยคนใหม่ สารวัตรภูธร จีแบร์ พอนทวน (Gendarme Gilbert Ponton รับบทโดย ฌ็อง เรโน่ – Jean Reno) ที่แสนจะเด็ดเดี่ยวมั่นคง และอึดมีน้ำอดน้ำทนสุด ๆ มาช่วยกันสะกดรอยตามล่าคนร้ายที่ทิ้งเบาะแสไว้ให้ชวนสับสนวุ่นวายคลายปม ลำบากสุด ๆ ชนิดทั่วทั้งกรุงปารีสยังไม่สาแก่ใจข้ามไปมหานครนิวยอร์คอีกด้วยซ้ำ ซึ่งที่มหานครนิวยอร์คนี่ คลูโซ กับ พอนทวน ก็ไปตะลุยย่านไทม์สแควร์ ใกล้ ๆ ตลาดค้าเพชรเลื่องชื่อ ถิ่น Fifth Avenue และโรงแรม Waldorf Astoria Hotel ชื่อดังด้วย โดยตลอดเส้นทางของทั้งคู่ก็ต้องเผชิญหน้ากับ พ่อค้าเพชรขี้ฉ้อ จิ๊กโก๋เกือบจะเก๋าแต่ยังไม่เข้าที่ จอมโจรชื่อกระฉ่อน เจ้าของคาสิโนช่างฉอเลาะ เจ้าหน้าที่สืบราชการลับ เทรนเนอร์น่าสงสัย และเครื่องดื่มเลิศรสมหัศจรรย์ชื่อ “โมฮิโต้ระเริงเพลิง” (“The Flaming Mojito”) ยิ่งสืบไปทีละน้อย ๆ คลูโซ ก็ลดจำนวนผู้ต้องสงสัยลงไปทีละคน จนเหลือกลุ่มผู้ต้องสงสัยน่าหมายหัวเป็นที่สุดอยู่แค่ ซันย่า แฟนสาวข้างกายเหยื่อ บิซู (Bizu รับบทโดย วิลเลี่ยม แอ็บบาดี้ – William Abadie) นักฟุตบอลดาวรุ่งที่ถูกเขี่ยออกไปจากทีม ลาโร้ค (Larocque รับบทโดย โรเจอร์ รีซ – Roger Rees) มหาเศรษฐีเจ้าของคาสิโน กับ เชอรี่ (Cherie รับบทโดย คริสทิน เชโนเว็ธ – Kristin Chenoweth) ประชาสัมพันธ์สาวที่อ่อยให้ท่าสุด ๆ
กระบวนการสืบสวนสอบสวนของ คลูโซ น่าทึ่งมาก ถึงจะวกเวียนไปมาจนน่าปวดขมอง แต่เขาก็ไม่เคยวอกแวก ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ ไม่เคยเสียเกียรติแลกกับสิ่งใดทั้งสิ้น ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ ดรายฟัส อกสั่นขวัญผวา ไม่ว่าเขาจะใส่ใจ คลูโซ หรือไม่ก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของ พอนทวน และนิโคล (Nicole รับบทโดย เอ็มมิลี่ มอร์ทิเมอร์ – Emily Mortimer) เลขา สาวที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในที่สุด คลูโซ ก็กระชากหน้ากากฆาตกรได้สำเร็จ และไม่ยอมให้ ดรายฟัส มาแย่งเอาหน้ารับความดีความชอบไปได้ด้วยนะ