เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งใช้ชีวิตประจำวันแบบเนิบช้า ทำสวนและเข้าครัววันแล้ววันเล่า แต่การถ่ายทอดภาพชนบทญี่ปุ่นออกมาอย่างงดงาม รวมถึงการรังสรรค์เมนูโฮมเมดต่างๆของตัวละครในเรื่องก็ดึงดูดผู้ชมให้มีความสุขไปกับความเรียบง่ายในชีวิต ขณะเดียวกันตัวหนังก็มีการแฝงแนวคิดบางอย่างที่มีความลึกซึ้ง โดยเฉพาะการนำเสนอวีถีสังคมเกษตรกรรมที่สวนทางกับวิถีสังคมอุตสาหกรรมในเมืองใหญ่ทั่วโลกซึ่งขับเคลื่อนด้วยทุนนิยม อยากกินอะไรก็ซื้อหาเอาจากซุปเปอร์มาเก็ต ทว่าตัวละครหลักใน Little Forest อยากกินอะไรก็ทำขึ้นเอง ไม่เฉพาะอาหารหรือเครื่องดื่ม แม้แต่ ขนมหวาน แยม และ เครื่องปรุงรสบางชนิดก็ทำกันเอง วันๆพวกเขาแทบจะไม่ได้ใช้จ่ายเงินเลย หนังไม่ได้มีความเป็นชนบทแบบสุดโต่งชนิด ใช้นํ้าบาดาล ติดเตาถ่าน จุดเทียน ตัวละครในเรื่องมีสิ่งอำนวยความสะดวกจำเป็นบางประการ อาทิ ไฟฟ้า นํ้าประปา ตู้เย็น ฮีตเตอร์ วิทยุ โทรศัพท์บ้าน รถยนตร์คันเล็กๆ (ไม่มีโทรทัศน์ มือถือ ไมโครเวฟ คอมพิวเตอร์) สำหรับอาหารหลายๆจานซึ่งเป็นไฮไลต์ของหนังน่าสนใจตรงที่มันไม่เหมือนหนังอาหารทั่วๆไปที่มักนำเสนอภาพสวยๆบนโต๊ะอาหาร เพราะในหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบจากหลากหลายที่ หมุนเวียนตามฤดูกาลแบบละเอียดก่อนจะเข้าครัว ทุกสิ่งมีที่มาที่ไป ไม่ได้เกะซองพร้อมกิน เป็นความพิถีพิถันที่คนเมืองซึ่งคุ้นเคยกับอาหารจานด่วนไม่เคยได้สัมผัส แม้อาหารแต่ละจานจะดูดิบๆ ไม่ได้แต่งหน้าตาสวยงามเกินจริงแบบรายการทำอาหารทางทีวี ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านฤดู Little Forest ค่อยๆเฉลยที่มาที่ไปของ อิจิโกะ ทีละนิด เป็นสิ่งที่ผู้ชมอยากรู้เหมือนกันว่าอะไรที่ผลักดันหญิงสาวคนนี้ให้กลับมาใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในบ้านนอกคอกนา และเธอจะอยู่ที่นั่นอีกนานแค่ไหน อย่างไรก็ตามตัวหนังก็ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งด้วยเช่นกัน ชีวิตที่มีกิน แบบไม่ต้องมีใช้(จ่าย)เลย