เวสลีย์ ดอยล์ (พาวเวอร์ส บูธ) เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะตามล่าตัวฆาตกรนามว่า หัตถ์พระเจ้า ต้องเป็นอันฉงน เมื่อมีชายคนหนึ่ง เดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา และบอกว่า เขารู้จักรูปพรรณสัณฐาน ของฆาตกรรายนี้เป็นอย่างดี ชายผู้นี้มีชื่อว่า เฟนตัน มีคส์ (แมทธิว แมคคอนนาเฮย์) เขาอ้างว่าน้องชายของเขา : อดัม เป็นผู้ฆ่าคนเหล่านั้น ก่อนที่จะฆ่าตัวตายในภายหลัง อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมที่อดัมได้ก่อไว้ เป็นเพียงแค่ประเด็นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเรื่องราวอันซับซ้อนอื่นๆ ที่มีคส์อยากจะเล่าให้ดอยล์ฟัง เพื่อที่ว่าดอยล์จะได้เข้าใจถึงแรงจูงใจในการฆ่า ของน้องชายของเขา และแล้วอดีตและปัจจุบัน ได้เกิดการซ้อนทับกัน เมื่อผู้แปลกหน้าทั้งสอง ได้เดินทางมายังสวนดอกไม้ อันเป็นที่ๆ ศพของอดัมถูกฝังไว้ และแล้วเรื่องราวของศรัทธา และการแก้แค้น จึงถูกถ่ายทอดผ่านคำบอกเล่าของมีคส์… เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในปี 1979 ซึ่งขณะนั้นพี่น้องตระกูลมีคส์คือ เฟนตัน (แมทธิว โอ เลียรี) วัยสิบสองปี และ อดัม (เจอเรมี ซัมพ์เตอร์) วัยเก้าขวบ กำลังใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างมีความสุขกับพ่อ (บิล แพ็กซ์ตัน) ชายผู้มีจิตใจอ่อนไหว เขาเพิ่งมีจิตใจที่ดีขึ้น หลังจากสูญเสียภรรยาที่รักไป ชีวิตที่สงบสุขของสามพ่อลูก ต้องมีอันเปลี่ยนไป เมื่อวันหนึ่งพ่อประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่า เทวดาได้เดินทางมาพบเขา และมอบหมายให้เขาทำภารกิจศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าก็คือ การกำจัด ปิศาจร้าย ที่สิงในร่างของคนธรรมดาทั่วไป โดยรายชื่อของคนเหล่านั้น จะถูกส่งตามมาภายหลัง และหน้าที่ของครอบครัวมีคส์คือ ตามหาพวกเขาให้ได้และกำจัดเสีย ขณะที่อดัมยึดมั่นต่อภารกิจของครอบครัว ในการจัดการกับปิศาจร้ายตามพ่อ แต่เฟนตันกลับรู้สึกว่า พ่อของเขากลายเป็นคนเสียสติไปแล้ว เมื่อเป็นดังนี้ เฟนตันจึงต้องหาทางออก ด้วยการต่อสู้กับความชั่วร้ายภายในตัวเอง และความรุนแรงที่ทำให้วัยเด็กของทั้งสองถูกทำลายไป ได้ส่งผลต่อชีวิตในอนาคตของพวกเขาอย่างสูง เป็นเพราะผลกระทบจากประสบการณ์ในอดีต ทำให้ทั้งเฟนตันและอดัม มีทัศนคติต่อความดีและความชั่วต่างกัน ทัศนคติดังกล่าว นำพาพวกเขาไปสู่โชคชะตาที่น่าสะพรึงกลัว และคาดไม่ถึง