ฌาคส์ โซนิแยร์ ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ถูกซิลาส นักบวชผิวเผือกเค้นถามถึง “หลักศิลา” กุญแจซึ่งนำไปสู่จอกศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะถูกฆ่า ตำรวจพบร่างของโซนิแยร์อยู่ในลักษณะคล้ายภาพ “วิทรูเวียนแมน” เบซู ฟาช สารวัตรของกรมตำรวจฝรั่งเศสเชิญตัวโรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์วิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่พักอยู่ในปารีสมาที่เกิดเหตุ แลงดอนพบลำดับเลขฟีโบนัชชีที่ซ่อนอยู่ ต่อมาโซฟี เนอเวอ นักถอดรหัสจากกรมตำรวจและหลานสาวของโซนิแยร์บอกแลงดอนว่าฟาชแอบติดเครื่องติดตามที่ตัวแลงดอนเพราะสงสัยว่าแลงดอนเป็นคนฆ่าโซนิแยร์ เนื่องจากมีข้อความที่โซนิแยร์เขียนไว้ก่อนตายว่า “ตามหาโรเบิร์ต แลงดอน” และฟาชลบออกก่อนที่แลงดอนจะมาถึง แลงดอนและโซฟีทำลายเครื่องติดตามและตามลำดับเลขไปที่ผลงานของเลโอนาร์โด ดา วินชี จนแลงดอนอนุมานได้ว่าโซนิแยร์เป็นประมุขของสมาคม “ไพรเออรีออฟไซออน” ด้านซิลาสที่ทำงานให้กับบิชอปอาริงกาโรซา ประมุขนิกายโอปุสเดอีและบุคคลลึกลับนามว่า “ท่านอาจารย์” หลบซ่อนตัว
หลังลอบออกจากพิพิธภัณฑ์มาได้ แลงดอนและโซฟีไปที่ธนาคารรับฝากทรัพย์สินซูริก สาขาปารีสและใช้ลำดับเลขฟีโบนัชชีเป็นรหัสผ่าน ทั้งคู่พบรหัสลิขิต ซึ่งเป็นกระบอกใส่กระดาษพาไพรัสที่เข้ารหัส 5 ตัว หากเปิดด้วยวิธีอื่น กระบอกน้ำส้มสายชูที่อยู่ภายในจะแตกและทำลายกระดาษ ทั้งคู่ได้รับความช่วยเหลือจากอังเดร แวร์เนต์ ผู้จัดการธนาคารให้หลบหนีออกจากธนาคารด้วยรถบรรทุกเมื่อธนาคารถูกตำรวจล้อม แต่ต่อมาแวร์เนต์บังคับเอารหัสลิขิตคืน แลงดอนปลดอาวุธแวร์เนต์และพาโซฟีไปหาเซอร์ลีห์ ทีบบิง ผู้เชี่ยวชาญด้านจอกศักดิ์สิทธิ์และเพื่อนของแลงดอน
ทีบบิงอธิบายให้ทั้งคู่ฟังว่า จอกศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หมายถึงจอกจริง ๆ แต่หมายถึงแมรี แม็กดาเลน ภรรยาของพระเยซูที่ตั้งครรภ์ช่วงที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน และสมาคมไพรเออรีออฟไซออนมีหน้าที่ปกป้องสายเลือดของพระเยซู โดยมีองค์กรโอปุสเดอีคอยตามล่า ต่อมาซิลาสบุกมาที่บ้านของทีบบิงแต่ถูกทีบบิงทำร้ายจนสลบ ทั้งหมดไปที่ลอนดอนด้วยเครื่องบินส่วนตัวของทีบบิงและไปที่โบสถ์เทมเพิล ด้านเรมี คนรับใช้ของทีบบิงปล่อยตัวซิลาสและบอกว่าตนคือ “ท่านอาจารย์” เขาจับทีบบิงเป็นตัวประกันและพาขึ้นรถ ต่อมาเรมีถูกทีบบิงวางยาพิษและแจ้งตำรวจให้ไปจับตัวซิลาส ซิลาสพยายามหลบหนีและยิงสู้กับตำรวจ แต่ยิงพลาดไปถูกบิชอปอาริงกาโรซา ก่อนที่ตนจะถูกตำรวจยิงตาย
แลงดอนและโซฟีเผชิญหน้ากับทีบบิงที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ทีบบิงเปิดเผยว่าตนคือ “ท่านอาจารย์” และตั้งใจจะใช้ความลับเรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์ในการทำลายวาติกัน เขาจับโซฟีเป็นตัวประกันและบังคับให้แลงดอนเปิดรหัสลิขิตที่หลุมศพของไอแซก นิวตัน อดีตประมุขของไพรเออรี แต่แลงดอนทำลายรหัสลิขิตต่อหน้าทีบบิง ตำรวจที่ตามมาจับกุมทีบบิงที่ตระหนักได้ว่าแลงดอนเปิดรหัสลิขิตได้สำเร็จ แต่แกล้งทำลายรหัสลิขิตต่อหน้าทีบบิง
ต่อมา แลงดอนและโซฟีไปที่โบสถ์น้อยโรสลินในสกอตแลนด์ ทั้งคู่พบว่าหลุมศพของแมรี แม็กดาเลนถูกย้ายออกไป แลงดอนตระหนักได้ว่าโซนิแยร์ไม่ใช่คุณตาจริง ๆ ของโซฟี แต่เป็นผู้ปกป้องเธอในฐานะผู้สืบเชื้อสายพระเยซู ทั้งคู่พบกับสมาชิกหลายคนของสมาคมไพรเออรี รวมถึงคุณยายของโซฟี เมื่อแยกกับโซฟี แลงดอนตามเส้นกุหลาบไปที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และพบว่าที่จริงแล้วหลุมศพของแม็กดาเลนอยู่ใต้พีระมิดลูฟวร์ ภาพยนตร์จบลงเมื่อแลงดอนคุกเข่าทำความเคารพแม็กดาเลนเหมือนเช่นอัศวินเทมพลาร์ในอดีต