ท็อดด์ บาวเดน (Brad Renfro) นักเรียนหนุ่มที่ได้ไปรู้โดยบังเอิญว่า เคิร์ต ดุสเซนเดอร์ (Ian McKellen) ชายชราข้างบ้าน คืออดีตอาชญากรนาซีที่หลบหนีมา ส่วนท็อดด์นั้น ก็อยากจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างละเอียด จึงบังคับให้เคิร์ตเล่า โดยหากเคิร์ตไม่ยินยอม ท็อดด์ก็ขู่ว่าจะไปแจ้งตำรวจมาจับเขา (เนื่องด้วยเขาเป็นอาชญากรสงครามไงครับ ประกาศจับไม่มีหมดอายุ) แต่หารู้ไม่ว่า การกระทำของท็อดด์ครั้งนี้ เท่ากับปลุกความโหดของเคิร์ตในสมัยสงครามให้ฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มตัว
ผลงานกำกับของ Bryan Singer แห่ง The Usual Suspect และ X-Men ดัดแปลงจากนิยายของ Stephen King ซึ่งกับเรื่องนี้ เขาก็ทำได้ไม่เลวครับ นักแสดงนำทั้งสองก็เล่นได้แบบเฉือนกันดี เสียแต่จังหวะหนังอืดเกินไปหน่อย ถ้ากระชับ เล่นเร้าอารมณ์กว่านี้ หนังต้องยอดมากแน่ๆ ซึ่งเท่าที่เป็นอยู่หนังก็โอเคในระดับหนึ่งแล้วครับ สำหรับเรื่องเขย่าขวัญเชิงจิตวิทยาแบบนี้ แต่มันอืดไปหน่อยจนอารมณ์ไม่ถึงกับสุดๆ
ส่วนตัวผมชอบแนวของหนัง แบบนี้นะครับ คือมันมักจะเดาบทสรุปลำบาก และมันยังเล่นกับสภาพจิตใจของคนเราโดยตรง โดยเฉพาะคนที่เคยผ่านสงครามมาเนี่ย มักจะมีอะไรซ่อนอยู่ในใจเสมอเลยเชียว และมันก็น่าค้นหาครับ แต่ขณะเดียวกันมันก็น่ากลัว เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าที่เขาเคยเจอในสงครามน่ะมันเลวร้ายแค่ไหน คือผมก็เข้าใจครับว่ามันต้องเลวร้ายมากๆ แต่เชื่อเถอะต่อให้ผมจินตนาการไว้แค่ไหนมันก็ไม่มากเท่าที่เขาเจอจริงๆ หรอก
อีกเรื่องที่น่าคิดก็คือ พวกทหารนาซีเนี่ยครับ ส่วนมากโหดอำมหิตทั้งนั้น แต่มันเป็นเพราะเขาจำใจหรือเพราะสันดานภายในมันอยากเป็นอยู่แล้วกันแน่ ซึ่งจะว่าไปมนุษย์ทุกคนล้วนมีความคิดในเชิงมรณะทำลายล้างทั้งนั้นล่ะครับ ขึ้นอยู่กับมีมากหรือน้อย มันก็ขึ้นอยู่กับเราเช่นกันที่จะคิดยับยั่งชั่งใจมันได้หรือไม่
ก็อย่าให้ความชั่วมาครอบงำแล้วกันครับ เราเป็นคนน่ะนะ ข้อดีอย่างหนึ่งที่มีมากกว่าสัตว์ทั้วไปคือมีสติสัมปชัญญะ และหากเราขาดสติเมื่อใด เราก็ไม่ต่างจากเดรัจฉานทั่วๆ ไปหรอกครับ เอาแต่อารมณ์แล้วโลกจะสงบได้อย่างไร
สรุปว่าก็เป็นหนังอีกระทึกขวัญอีกเรื่องที่ไม่เลวครับ คอหนังแนวนี้ก็อยากให้ลองดูละกัน