ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1973 หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอังกฤษ (ชื่อรหัส: เดอะเซอร์คัส (The Circus)) ส่งสายลับจิม พรีโดก์ไปยังประเทศฮังการีเพื่อพบกับนายพลชาวฮังการีที่ต้องการจะขายข้อมูล ปฏิบัติการถูกเปิดโปงและพรีโดก์ถูกยิงขณะกำลังหนีโดยหน่วยข่าวกรองฮังการี ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศขึ้น หัวหน้า (Control) และมือขวาของเขา จอร์จ สไมลีย์จึงถูกบีบให้เกษียณก่อนกำหนด หัวหน้าที่มีอาการป่วยอยู่แล้ว ก็เสียชีวิตลงหลังจากออกจากงานไม่นานนัก
เพอร์ซี อัลเลไลน์กลายเป็นหัวหน้าคนใหม่ของเดอะเซอร์คัส โดยมีบิล เฮย์ดอน เป็นผู้ช่วย และรอย แบลนด์ กับโทบี เอสเตอร์เฮสเป็นคนใกล้ชิด พวกเขาสร้างชื่อเสียงของตัวเองด้วยการส่งข่าวกรองโซเวียตที่ดูจะเป็นข่าวกรองระดับสูง ชื่อรหัส “วิทช์คราฟท์” (Witchcraft) โดยที่ทั้งหัวหน้าและสไมลีย์ต่างก็สงสัยในที่มาและความน่าเชื่อถือของข่าวกรองนี้ อัลเลไลน์แบ่งข้อมูลให้กับฝ่ายอเมริกัน เพื่อแลกกับข่าวกรองชั้นดีของสหรัฐฯ เอง
สไมลีย์ถูกดึงตัวออกมาจากการเกษียณโดยโอลิเวอร์ เลคอน ข้าราชการที่เป็นหัวหน้าฝ่ายข่าวกรอง เพื่อสืบสวนข้อกล่าวหาของสายลับริคกี ทาร์ว่ามีหนอนบ่อนไส้ที่ฝังตัวมานานอยู่ในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยข่าวกรองอังกฤษ ซึ่งหัวหน้าเองก็เคยกล่าวถึงเรื่องนี้มาก่อน สไมลีย์คัดคนมาจัดตั้งเป็นทีมเล็กๆ และเริ่มสัมภาษณ์คนที่ออกจากเซอร์คัสไปในเวลาเดียวกันกับสไมลีย์และหัวหน้า คนแรกคือคอนนี แซคส์ ซึ่งถูกอัลเลไลน์ไล่ออกเนื่องจากไปกล่าวหาอเล็กไซ โพลิยาคอฟ เจ้าหน้าที่ทูตฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตโซเวียตในลอนดอน ว่าเป็นสายลับโซเวียต อีกคนหนึ่งคือเจอร์รี เวสเตอร์บี ที่ทำหน้าที่เป็นเสมียนประจำในคืนที่พรีโดก์ถูกยิง เวสเตอร์บีบอกว่าเขาโทรไปที่บ้านของสไมลีย์เพื่อขอคำสั่ง แต่ภรรยาของสไมลีย์เป็นคนรับสายแทนเพราะสไมลีย์ไม่อยู่บ้าน หลังจากนั้นไม่นาน เฮย์ดอนก็มายังเซอร์คัส โดยบอกว่าเขาเห็นข่าวจากแถบวิ่งที่คลับของเขาเมื่อเวลาตีหนึ่ง สไมลีย์จึงรู้ว่าเฮย์ดอนโกหก เพราะคลับปิดก่อนตีหนึ่ง และเฮย์ดอนรู้ข่าวนี้จากภรรยาของสไมลีย์ ซึ่งเฮย์ดอนเป็นชู้อยู่
สไมลีย์กลับมาที่บ้านเพื่อเจอทาร์ที่มาขอซ่อนตัว ทาร์บอกเขาว่าตอนที่เขาถูกส่งไปที่อิสตันบูลเพื่อสืบสวนสายลับโซเวียตที่ชื่อว่าบอริส เขาได้พบกับอิรินา ภรรยาของบอริส ซึ่งตัวเธอเองนั้นก็เป็นสายลับโซเวียตเช่นกัน เขาคบชู้กับเธอจนเธอเอ่ยถึงหนอนบ่อนไส้ในหน่วยข่าวกรองอังกฤษ ที่รับคำสั่งจากคาร์ลา หัวหน้าสายลับของโซเวียต ทาร์จึงแจ้งข้อมูลนี้ไปยังลอนดอน และหลังจากล่าช้าไปนาน ทาร์ก็ถูกสั่งให้กลับประเทศทันที บอริสและหัวหน้าศูนย์อังกฤษในอิสตันบูลถูกฆ่าโดยฝ่ายรัสเซีย และอิรินาถูกพาตัวกลับไปยังประเทศรัสเซีย ทาร์ที่ถูกฝ่ายอังกฤษกล่าวหาว่าแปรพักตร์และฆาตกรรมหัวหน้าศูนย์อังกฤษจึงหนีไป สไมลีย์สั่งให้ปีเตอร์ กวิลเลม เจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่อยู่ในทีมของเขา ไปขโมยสมุดปูมของเซอร์คัสในคืนที่ทาร์ส่งข่าวมา แล้วพบว่าหน้าบันทึกของคืนนั้นถูกฉีกออกไป ทำให้ยืนยันเรื่องของทาร์ว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ในองค์กรจริงๆ
สไมลีย์ไปหาจิม พรีโดก์ ที่ถูกเนรเทศกลับมาและถูกไล่ออกจากองค์กร พรีโดก์เปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงของภารกิจในฮังการี เพื่อเรียนรู้ชื่อของหนอนบ่อนไส้ หัวหน้าตั้งชื่อรหัสให้กับผู้ต้องสงสัย ได้แก่ “ทิงเกอร์” (อัลเลไลน์), “เทลเลอร์” (เฮย์ดอน), โซลเยอร์ (แบลนด์), “พัวร์แมน” (เอสเตอร์เฮส) และ “เบกการ์แมน” (ตัวสไมลีย์เอง) พรีโดก์เล่าถึงการสอบสวนอันทารุณ (ซึ่งเขาได้เห็นอิรินาถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา) แต่บอกว่าฝ่ายโซเวียตรู้ถึงการสืบสวนหาตัวหนอนบ่อนไส้ของหัวหน้าอยู่แล้ว เพียงแต่สนใจที่จะรู้ว่าการสืบสวนดำเนินไปถึงไหนแล้ว
สไมลีย์รู้ว่าอัลเลไลน์, เฮย์ดอน, แบลนด์และเอสเตอร์เอสพบกับโพลิยาคอฟที่บ้านลับแห่งหนึ่ง โดยให้ข้อมูลที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นข่าวกรองอังกฤษชั้นต่ำ (เนื่องจากโพลิยาคอฟทำตัวเป็นสมรู้ร่วมคิดด้วย แต่ยังเป็นเจ้าหน้าที่ KGB จึงต้องเพื่อป้อนข่าวเพื่อไม่ให้ทางรัสเซียสงสัย) เพื่อแลกกับข่าวกรองวิทช์คราฟท์ แต่ข่าวกรองนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นแค่ข่าวกรองปลีกย่อย ไม่มีความสำคัญอะไร แต่ป้อนข่าวมาเพื่อโน้มน้าวให้ฝ่ายอเมริกันแบ่งข่าวกรองมาให้ฝ่ายอังกฤษ ซึ่งหนอนบ่อนไส้จะทำการส่งข่าวต่อไปให้ฝ่ายโซเวียตอีกทีหนึ่ง
สไมลีย์ขู่เอสเตอร์เฮสให้บอกที่อยู่ของบ้านลับนั้นมา เพื่อแลกกับการไม่ถูกเนรเทศ เนื่องจากเอสเตอร์เฮสเป็นคนฮังการี ซึ่งเป็นรัฐในอาณัติของสหภาพโซเวียต ถ้าเขากลับไป ก็เท่ากับได้รับโทษประหาร เอสเตอร์เฮสจึงยอมบอก จากนั้นสไมลีย์ก็ตั้งกับดักขึ้นมาโดยให้ทาร์ไปปรากฏตัวที่ศูนย์ปารีส เพื่อประกาศว่าเขารู้ตัวหนอนบ่อนไส้ เพื่อหนอนบ่อนไส้รู้ข่าว ก็จะไปพบกับโพลิยาคอฟเพื่อบอกให้คาร์ลากำจัดทาร์เสีย สไมลีย์รออยู่ที่บ้านพักเพื่อจับกุมหนอนบ่อนไส้ ปรากฏว่าเป็นเฮย์ดอน ที่ศูนย์สอบสวนของเซอร์คัสที่ซาร์รัต เฮย์ดอนสารภาพว่าเขาเป็นชู้กับภรรยาของสไมลีย์ตามคำสั่งของคาร์ล เพื่อบิดเบือนข้อสงสัยใดๆ ที่สไมลีย์มีกับเฮย์ดอน และให้สไมลีย์ตีความสงสัยเป็นความอคติ ซึ่งจะทำให้สไมลีย์ระมัดระวังก่อนที่จะสงสัยเฮย์ดอน ก่อนภารกิจฮังการีของพรีโดก์ พรีโดก์ไปหาเฮย์ดอน เพื่อนสนิทของเขา เพื่อบอกถึงความสงสัยขอหัวหน้า ทำให้เฮย์ดอนรู้ทันและจัดการให้พรีโดก์ถูกยิงก่อนรู้ข้อมูล เซอร์คัสตั้งใจที่จะแลกเปลี่ยนเฮย์ดอนกับสายที่โซเวียตจับตัวไป แต่พรีโดก์ที่เพิ่งรู้ถึงการทรยศของเฮย์ดอน ชิงฆ่าเขาเสียก่อน สุดท้าย สไมลีย์ก็ได้กลับไปยังเซอร์คัสในตำแหน่งหัวหน้าองค์กร